(Fic Naruto | ฟิค Shikatema) Beyond the Horizon - นิยาย (Fic Naruto | ฟิค Shikatema) Beyond the Horizon : Dek-D.com - Writer
×

    (Fic Naruto | ฟิค Shikatema) Beyond the Horizon

    (ฟิคชิกาเทมา | Fic Shikatema) A story of cloud and wind that has never been told.

    ผู้เข้าชมรวม

    27,797

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    174

    ผู้เข้าชมรวม


    27.79K

    ความคิดเห็น


    489

    คนติดตาม


    388
    จำนวนตอน :  16 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.พ. 67 / 07:27 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


     

    Beyond the Horizon

    or

    - A story of cloud and wind
    that has never been told. -

     

     

    Rate M

    Nara Shikamaru/Temari

    Republished: 05/05/2012

    Work in Progress

     



    Canon Compliant | Slow burn | Slow Build | Fluff | Basically, Tooth Rotting Fluff | Hurt and Comfort without Hurt | Companionship | Enemies to Friends to Lovers | Working Together | Eventual romance | A Kind of 'Read Between the Lines' Fan Fiction

    Disclaimer: All about Naruto belongs to Masashi Kishimoto. I own nothing, but plot and narrative of this fan fiction are mine.


     



    Summary: ในการสอบจูนินรอบสุดท้าย คู่ประลองม้ามืดคู่หนึ่งทำให้ผู้ชมทั้งสนามแทบลืมหายใจเมื่อเกะนินที่ดูระอาชีวิตเอาชนะคุโนะอิจิผู้ห้าวหาญได้อยู่หมัด และมันคงไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ถ้าหากทั้งสองไม่ต้องวนเวียนมาเจอกันอีกครั้งแล้วครั้งเล่า

    In the final round of the Chunin exam, one single overlooked and underrated match made the entire audiences in the arena hold their breath when a Genin who seemed to be bored with life managed to defeat a fiery Kunoichi unquestionably. It would've been nothing more than that if both of them hadn't had to meet each other over and over again afterwards.

     


     



     Excerpt:

              เรื่องราวจับผลัดจับผลูอย่างที่ไม่ควรจะเป็น แต่พอพิจารณาดูดี ๆ กลับไม่มีอะไรจะสมเหตุสมผลไปมากกว่านี้อีกแล้ว

              นั่นมันจอกที่เท่าไหร่แล้วนะ

              ดวงตาคู่คมดุจเหยี่ยวเสมองแขกที่ร่วมแสดงความยินดีรินสาเกใส่ถ้วยซากาซุกิทรงแบนเคลือบยางรักสีชาดของท่านหญิงแห่งทะเลทรายซึ่งมีสีหน้าระเรื่อ หญิงสาวสวมฟุริโซเดะทอด้วยไหมงดงามเพราะเป็นงานพิธีการ ตัวกิโมโนสีงาช้างกับโอบิผ้าไหมรินสุโทนเข้ม ช่วยขับผิวขาวเนียนดูผุดผาด เธอรับคารวะแทนโกะไดเมะ คาเสะคาเงะ ผู้เป็นน้องชาย

              เหล้าแสดงความยินดีของตัวเองก็ต้องรับดื่มด้วยตัวเองสิ ชิกามารุนึกตำหนิ

              เขาตัดสินใจวางจอกของตนแล้วเดินเข้าไปหน้าฉากภาพเขียน เขายกกาสุราขึ้นพลางกล่าวคำอวยพรอีกครั้งเหมือนเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้า ทว่าคราวนี้กลับหันไปรินสาเกใส่จอกของเทมาริแทน อีกฝ่ายช้อนดวงตาสีเขียวครามมอง แล้วทายาทตระกูลนาราก็หัวใจกระตุกเล็กน้อย เมื่อตาปรือ ๆ กับใบหน้าสวยคมที่ดูหวานเครือยามซับสีระเรื่อ

              ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้จ้องมองหญิงสาวนิ่ง คล้ายกำลังรอคอยบางอย่าง จังหวะที่เธอจะยกขึ้นดื่มหากแต่จอกในมือกลับคลอนแคลนทำท่าจะประคองไม่อยู่และเกือบจะเอียงหกถ้าเขาไม่ช้อนมือแตะหลังมือสาวเจ้าไว้ทันท่วงทีนั่นแหละ เขาก็รองมือเธอ ช่วยประคองจอกสาเกกลับมาให้ตรง ของเหลวจึงไม่ทันได้กระฉอกออก

              เขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว จึงกล่าวเรียบ ๆ ติดจะวางอำนาจอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอยู่บ้าง

              “คนของท่านเห็นจะรับเหล้าอวยพรต่อไม่ได้ เปลี่ยนตัวเถอะครับ ท่านคาเสะคาเงะ”

     



              แล้วเขาก็ได้รับอนุญาตให้พาตัวเธอออกมา

              แต่เขาลืมไปสนิทว่า ผู้หญิงคนนี้ เวลาเมาแล้วมีฤทธิ์เดชชวนปวดหัวอย่างไรบ้าง

              แถมเป็นพวกเมาแล้วชอบถอดเช่นใดบ้างอีกต่างหาก

     



              “นั่นเธอจะทำอะไร เทมาริ หยุดเดี๋ยวนี้”

              ชายหนุ่มถามพลางค่อยๆ ผ่อนแรง คลายน้ำหนักที่กำข้อมือเล็กๆ นั่นไว้เพราะกลัวอีกฝ่ายจะตกใจ เขาไม่อยากให้เทมาริเจ็บหรือตระหนก เกรงว่าเธอจะเหมือนกวางสาวตื่นๆ ที่หากเข้าใกล้ไปก็อาจจะคิดว่ากำลังจนมุมแล้วผงะหนี

              เจ้าหล่อนก็เลยได้ทีฉวยโอกาสเหวี่ยงแขนขึ้นกอดคอเขาอีกรอบพลางขยับขึ้นมานั่งครองพื้นที่บนตักเขา ขณะผ้าผ่อนเริ่มหลุดลุ่ย โอบิคลายตัวออก หนำซ้ำเพราะขยับอย่างรวดเร็ว กิโมโนจึงเลื่อนหลวมจากไหล่ เผยผิวต้นคอขาวนวลน่าสัมผัส สาบเสื้อแหวกร่นจนหากมองลอดลงไปก็เกือบจะเห็นเนินอก

              โชคดีที่ผ้าผูกกิโมโนยังไม่ถูกปลดออก อาภรณ์ถึงยังทำหน้าที่ตามสมควรอย่างการห่อหุ้ม ปกปิดเรือนร่างหญิงสาวไว้

              แน่นอนว่าชิกามารุย่อมเบือนสายตาทางอื่น จับจุดจดจ่อทั่วสิ่งโดยรอบ ตรงไหนก็ได้ เว้นแต่เพียงบนตัวเธอ ตลอดจนสิ่งเร้าอันยั่วยวนทั้งหลาย ไม่ว่าจะนัยน์ตาสีเขียวคราม ใบหน้าออดอ้อน หรืออะไรอื่นก็ดีที่เกี่ยวข้องกับคนตรงหน้า

              ทุกอย่างเลย

              “ร้อนจัง ชิกามารุ ทำยังไงดี”

              เสียงครางนี้คือที่สุดแล้ว จิตใจแทบเตลิดเปิดเปิง สติกระเจิงไปหมดตอนเทมาริแหงนหน้าขึ้นมองแบบนั้น "ช่วยฉันถอดหน่อยสิ"

              “ฉันจะไม่เป็นคนถอดผ้าผ่อนเธอออกหรอก เทมาริ ถ้าเธอจะถอดเพื่อให้สบายตัวขึ้น เธอต้องทำเอง และต้องไม่ใช่ตอนกำลังอยู่บนตัวฉัน” หลังจากยื่นคำประกาศิตอย่างเด็ดขาด ชายหนุ่มก็ไม่ลดละความเครียดขรึมราวกับว่านั่นจะช่วยไม่ให้เขาต้องเผลออ่อนข้อแก่เจ้าหล่อนอีกหนหากเธอไม่ยอมเข้าจริง ๆ

              ถ้าจะพูดกันตามตรง ไม่มีใครจะหนักแน่นมั่นคงได้เท่านารา ชิกามารุแน่นอน

              ทว่าหากมีเทมาริแห่งทรายเป็นตัวแปรล่ะก็ไม่แน่

              เทมาริคือคนเดียวที่ทายาทบ้านนาราจะยอมให้ เสมือนหนึ่งข้อผ่อนผันยกเว้นอันมากอภิสิทธิ์ แม้ว่าเวลานี้เขาจะกำลังใช้ไม้แข็งอยู่ด้วยก็ตาม เหตุผลประการแรกเลยคือ กับเทมาริ ความหนักแน่นดังกล่าวธำรงคงมั่นเสมอ เป็นหลักพึ่งพิงแก่เธอ ไม่เคยลดน้อย แต่มันจะมีครั้งที่ความอะลุ้มอล่วยผ่อนปรนเข้ามามีบทบาทไม่มากก็น้อยอย่างตอนเธอมองเขาเสียออดอ้อน ทำตัวน่ารักเกินจะต้านทาน หรืออะไรก็ตามซึ่งทอนใจเขาให้อ่อนลง

              ประการต่อมา เขาไม่อยากเปลื้องผ้าสาวบริสุทธิ์ –

              น่ล่ะ มันเห็นชัดมาก เพราะบางจังหวะที่แค่วางมือจับ หนั่นเนื้อเธอก็เกร็งแล้ว ไหนจะการขืนตัวน้อยๆ เช่นคนไม่ประสา

              ถึงปกติเขาจะไม่มีปัญหากับการเปลื้องผ้าเพศตรงข้ามได้โดยตาไม่แม้แต่จะกระพริบ ทว่าไม่ใช่กับเธอที่เขาถนอม

     



              นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนกระจายอำนาจครามครันเพื่อสะกดรวบทุกสิ่งภายใต้คลองจักษุไว้ที่ตัวอย่างสิ้นเชิงขณะอุ้มหญิงสาวออกจากตัก เขาคงเหมือนพวกชอบครอบครองบงการ เป็นเจ้าเข้าเจ้าของมากกว่าที่คิดจริง ๆ กระมัง

              ชั่วลมหายใจดังกล่าว หญิงสาวก็เอ่ยขึ้นผ่านกระแสเสียงเปรย ๆ ประหนึ่งรำพึงกับตัวเอง ไม่ปรากฏร่องรอยความประสงค์ที่จะได้คำตอบ เพราะสำนึกสติกำลังตกใต้ภวังค์อันยากจะเอาแน่เอานอน

              “นายเนี่ย อ่อนโยนแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นด้วยหรือเปล่า”

              ทว่ายังไม่ทันจะทำเช่นไรต่อ เสี้ยวหัวใจเต้นจังหวะดังกล่าว หญิงสาวกลับปลดกิโมโนนั่นหลุดเลื่อนจากไหล่ ละผ่านท่อนแขน ร่วงลงเหนือพื้น เธอเปลื้องมันออกอย่างไม่ยี่หระ จนร่างเพรียวบางเหลือแต่กิโมโนซับในขาวสะอาด โปร่งบางจนแทบเผยผิวเนื้อที่มันปกปิด

              นัยน์ตาคมกริบเห็นเพียงแค่ปราดปรายมอง ก็ถอนจุดวางสายตากลับเรียบ ๆ พลางรับมืออย่างไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว เหมือนคาดไว้ล่วงหน้าแต่แรกแล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ มือเอื้อมหยิบกิโมโนผ้ารินสุสีงาช้างพร้อมกับลุกขึ้นยืน ไม่พูดอะไร มีแต่ความเรียบเฉย หากทว่าสายตากลับปรากฏความอบอุ่นอ่อนโยนเจือผสมจาง ๆ ขณะคลี่กิโมโนตัวนอกวางลงบนไหล่บาง ห่อกายอีกฝ่ายไว้ต่างผ้าคลุมโคร่ง ๆ และเขาก็ตอบคำถามอันรำพึงรำพันของเธอเมื่อหลายชั่วลมหายใจก่อนในตอนนั้นเอง

              “แค่เธอคนเดียว เทมาริ… แค่เธอคนเดียว” – และนั่นก็เพราะเป็นเธอด้วย

              การเอื้อนเอ่ยนี้แม้จะไม่ดังกว่าการกระซิบ ทว่ากระนั้น กลับให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับการเผยมันออกให้โลกรับรู้อย่างภาคภูมิใจ

     



              ดวงตาสีเขียวครามช้อนมองคนตัวสูง ก่อนจะคลี่ยิ้ม ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะกำลังมีท่าทีขมวดเคร่งสักเพียงใดก็ไม่มีผลกับเธอ จูนินหนุ่มแห่งหมู่บ้านใต้เงาไม้มองริมฝีปากอวบอิ่มแย้มบานด้วยใบหน้าสุขุมเรียบนิ่ง ขณะจัดกิโมโนผ้าไหมซึ่งปกไหล่เล็ก ๆ อันน่าถนอมไว้ให้เข้าที่ ทุกกิริยาอาการสงบขรึม แม้ใจจะกำลังคลั่งคลุ้ม ถูกกลุ้มรุมโดยความรู้สึกลุ่มลึก

              เธอที่คาดโอบิสีแดงก่อนหน้านี้ ดูงดงามเหมือนเปลวเพลิง แผดเผาเขา

              แต่ ณ ปัจจุบันหญิงสาวที่ห่อหุ้มด้วยอาภรณ์สีขาวงาช้างกลับดูเหมือนเจ้าสาวแห่งงานวิวาห์

              แล้วจะแบบไหนก็แทบมอมเขาจนมัวเมาจับใจทั้งสิ้น นารา ชิกามารุไม่อาจละสายตาทางอื่นได้ แถมยังไม่รับรู้การเคลื่อนไปของสภาวะใดๆ รอบตัวอีก เสมือนสรรพสิ่งหยุดนิ่ง แม้กระทั่งประสาทสัมผัสก็คล้ายจะไม่ตอบรับต่ออะไรแวดล้อม สำนึกสัมผัสทุกประการพุ่งไปยังเทมาริ รับรู้เสียง กลิ่นกาย กระแสเคลื่อนไหว มีเพียงสตรีตรงหน้าบนครรลองจักษุ

              เธอเป็นดังเจ้าสาว สวมใส่กิโมโนลายเทมาริบานะดั้นเมฆ

              ราวกับเป็นเจ้าสาวของเขา

              ความคิดนั่นทำให้หัวใจเปี่ยมความปรารถนาเอ่อล้นท่วมท้น – หากเพียงจะมีวันนั้น – และเขาก็พลันตระหนักรู้ตัวว่ากำลังวาดภาพเฝ้าฝันถึงวันดังกล่าวขึ้นมา

              ชิกามารุไม่ค่อยจะคิดหวังหรือปรารถนาสิ่งใดนัก ตั้งแต่เยาว์วัยแล้ว แทบไม่มีเลย เพราะเขาอยู่กับความเป็นจริง ทั้งยังมองโลกอย่างทะลุปรุโปร่งตามประสาคนเรียบเรื่อย คร้านต่อชีวิต

              แต่เวลานี้ตนกำลังต้องการ และคิดฝัน

              เทมาริจุดประกายโลกของเขา เป็นแรงขับเคลื่อนผลักดันอันส่งผลทางบวกและนำสู่ทิศทางที่ดีเสมอ

              ชายหนุ่มมองเจ้าสาวผู้แช่มช้อยซึ่งมีกิโมโนขาวพิสุทธิ์คลุมทับกิโมโนซับในอยู่วับแวม มันยาวกร่อมเท้า ทำให้เธอยิ่งดูบอบบางกว่าที่เห็นภายนอก เขาพยายามขจัดความคิดว่ากำลังมองดูเจ้าสาวของตัวเองในคืนสมรส ถอดเหลืออาภรณ์เพียงไม่กี่ชิ้นติดกาย ความปรารถนาจะมีเธอยิ่งถูกปลุกเร้า เจ้าหล่อนเล่นกลกับใจเขาเสียเหลือเกิน

     



              แล้วถ้านั่นจะยังสะกดสายตาและสะกดดวงใจเขาไว้อย่างหลงลืมแม้กระทั่งจะผ่อนถ่ายลมหายใจไม่พอ เสี้ยวหัวใจเต้นหนึ่งจังหวะ เทมาริก็ยกกิโมโนขึ้นคลุมศีรษะ จับสาบเสื้อสองด้านเข้ากระชับไว้ตรงอกแล้วขยับช่วงก้าว เงยหน้าเข้าหาเขาเล็กน้อย

              ราวกับผ้าคลุมของเจ้าสาว

              เธอคือเจ้าสาวแห่งสีขาวบริสุทธิ์ และสำหรับข้อสนับสนุนความคิดดังกล่าว หญิงสาวก็เอ่ยในหลายจังหวะหัวใจเต้นถัดมาด้วยตัวเองว่ากำลังสวมใส่มันดังผ้าคลุมเจ้าสาวจริงๆ เช่นกันผ่านน้ำเสียงนุ่มนวล “เหมือนเจ้าสาวเลยเนอะ”

              รอยยิ้มนั้นผุดผาดและสัตย์ซื่อขณะดวงตาฉ่ำหวาน ดูน่ารักเปล่งประกายเมื่อผู้เป็นเจ้าสาวแย้มริมฝีปากจนนัยน์ตายาวรีคู่สวยหรี่เล็ก ทุกองค์ประกอบบนตัวเธอผุดผ่อง ชิกามารุตกใต้ห้วงภวังค์หลงใหล ความปรารถนาแรงกล้าหนึ่งพรั่งพรูออกจากใจ ขับเร้นผลักดันอย่างรุนแรง – เขาอยากจะจูบเธอ – มอบจุมพิตให้เจ้าสาวตรงหน้า

              เพราะมันเป็นสิ่งที่ควรทำมิใช่หรือ แลกจุมพิตแก่เจ้าสาวของตนน่ะ

              ทายาทหนุ่มแห่งตระกูลนาราจดจ้องอีกฝ่ายคล้ายกำลังพินิจพิจารณาสิ่งที่น่าอภิรมย์รื่นใจที่สุดในโลก

              ทว่าทั้งหมดที่ชิกามารุทำจริง ๆ คือรวบข้อมือหญิงสาวขึ้นมาทั้งสองข้าง ให้กำมือเล็ก ๆ คู่นั้นวางเหนือริมฝีปากของเธอเอง แล้วเขาก็ทาบรอยจูบลงไปบนกำปั้นนั่นที่กางกั้นระหว่างจุมพิตดังกล่าว ตลอดยังการสัมผัสต้องของเขาและเธอ ตนห้ามใจตัวเองได้เพียงแค่นี้ แต่เขาไม่เสียใจ มันหาใช่ความคิดชั่วแล่น เขามีความรู้สึกแก่เธอ และนั่นคือความจริงเที่ยงแท้

     



              เธอยิ้ม ก่อนจะดึงปิ่นออกจากมวยผมที่เกล้าไว้ง่าย ๆ เพียงเพื่อให้เข้ากับชุดกิโมโน

              เมื่อเรือนผมนิ่มสลวยสยายออก มันก็ทิ้งตัวลื่นไหลละผ่านหว่างนิ้ว เขาสางเส้นผมละเอียดนุ่มดังกล่าวช้าๆ ให้อยู่ทรงแทนแปรงผมอย่างใส่ใจ จัดระเบียบและเกลี้ยปอยผมที่ระใบหน้าเธอให้เข้าที่ จับบางส่วนทัดใบหู แล้วประคองแก้มเธอ วางศีรษะตัวเองมองตรง รับกับใบหน้าอันเกลี้ยงเกลาราวกับจะตรวจสอบความเรียบร้อยว่าหญิงสาวยังคงความสะสวยพริ้มเพราเหมือนเดิม ก่อนจะปิดท้ายด้วยการบีบจมูกโด่งรั้นของสาวเจ้าหนึ่งที

              แน่นอน เธอสวย เครื่องหน้าลงตัวเหมาะเจาะแลหมดจด แม้จะเป็นดังลมเย็นเอื่อย แต่ก็คล้ายไฟ

              เธอเหมือนทุกอย่างนั่นแหละ ทั้งกระแสน้ำชุ่มชื่น หรือแสงจันทร์นุ่มนวล กระทั่งดวงอาทิตย์ทะเลทรายอันเรืองรองเจิดจรัสจนสติสำนึกเขากระจ่างแจ้ง – เรือนผมสีบลอนด์ล้อมกรอบดวงหน้าหวานคม ขับเร้นให้ดูผ่องใส มีน้ำมีนวล

              นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอปล่อยผม แล้วตนก็แน่ใจทันทีว่าอยากจะเห็นมันทุกๆ วัน ทุก ๆ เช้า เป็นกิจวัตรแรกยามลืมตาตื่น

     



              อากาศยามเช้าของหมู่บ้านซึ่งซ่อนเร้นใต้เงาทะเลทรายยังเย็นและอวลไอหม่นมัว สายหมอกคลี่คลุมเหนือเวิ้งผาหินเหมือนม่านพลิ้วที่เรียงตัวสลับกันประดุจเงาพรายแห่งสายน้ำ กลิ่นของอากาศย่ำรุ่งอัดแน่นทุกอณู

              ท่อนแขนแกร่งที่กอดอกไว้คลายออกหลวมๆ ตอนเปลือกตาของคนบนตักเริ่มขยับ แพขนตาสีอ่อนไหวน้อยๆ ก่อนจะเผยห้วงสมุทรลุ่มลึกสีเขียวครามซึ่งเห็นชัดว่ายังคงสะลึมสะลือ ไม่ตื่นเต็มที่ และน่าจะกำลังมึนงงไม่หยอก ชายหนุ่มกระซิบเบาๆ เพราะกลัวเสียงดังเกินไปอาจทำให้อีกฝ่ายซึ่งผ่านคืนอันเมามายเช่นนั้นมาหมาด ๆ ปวดหัว

              “อย่าเพิ่งรีบลุกเร็วเกินไปล่ะ ค่อย ๆ นอนนิ่ง ๆ ก่อนเถอะ”

              แต่หญิงสาวที่สติรับรู้ยังหวนคืนไม่เต็มรูปก็ขยับ มันไม่ใช่การเพิกเฉยต่อคำบอกดังกล่าว หากเป็นเพราะขณะที่สายตาพลันเหลือบเห็นสภาพอาภรณ์ซึ่งหายไปมากชิ้นทีเดียว สำนึกรู้ตัวก็ตอบสนองด้วยการสำรวจดูสวัสดิภาพความเรียบร้อยของตนเอง ครั้นจับต้นชนปลายวีรกรรมทั้งหมดเมื่อคืนได้ในที่สุด นัยน์ตาคู่เดิมก็แหงนมองคนตัวสูงซึ่งตนกำลังอ้างสิทธิ์เหนือตักเขาไว้ในความยึดครอง

              ฝ่ายเจ้าของตักก็เพ่งพิศลงมาเหมือนจะกำกับการ เขาเสียอีกที่ทำทีเพิกเฉยอาการสะเทิ้นอายซึ่งแวะเวียนเข้าทักทายเจ้าหล่อนกะทันหันหลังภาพความทรงจำย้อนผ่านชนิดไม่มีตกหล่น

              “ขยับตัวเร็วเดี๋ยวก็ยิ่งมึนหัวหรอก นอนนิ่ง ๆ สักพักจะดีกว่า ตักฉันไม่ได้จะสึกหรอไปไหน”

              ได้ยินกระแสเสียงเรียบๆ ดังนั้น ท่านหญิงแห่งทรายซึ่งไม่รู้จะเอาหน้าที่ไหนสู้หน้าอีกฝ่ายก็ทำเสียยิ่งกว่าคำแนะนำดังกล่าว

              หญิงสาวดึงกิโมโนที่ปกร่างอยู่ต่างผ้าห่มขึ้นคลุมโปงเหมือนรังหนอนไหม พลางซุกตัวแน่นิ่ง หลัก ๆ ก็ไม่ได้จะปิดบังเรือนร่างน้อยอาภรณ์ – เพราะจากเรื่องเมื่อคืน การปกปิดผ้าผ่อนน้อยชิ้นก็ดูจะไม่มีประโยชน์และไม่ใช่เรื่องสำคัญลำดับแรกอีกต่อไป – แค่ไม่อยากให้ทายาทตระกูลนาราเห็นพวงแก้มที่กำลังเห่อร้อนและแดงก่ำ แม้จะเขินอายช้าไปหลายชั่วโมงก็ตาม

              เทมาริพลันรู้ซึ้งถึงฤทธิ์เดชไม่น่าคบของสุราทันที

              "ทำยังไงดี" เธอครางอย่างหมดท่า

              ชิกามารุสำลักขำเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงกลั้นหัวเราะระคนยียวนเต็มที “ก็ทำเหมือนว่าหัวหน้าโจนินของโคโนะฮะกับท่านหญิงแห่งทรายไม่ได้หายไปไหนด้วยกันมาทั้งคืนน่ะสิ”

     

     


     



              Author's Note:

              ฟิคนี้เขียนมานานทีเดียวค่ะ ลงมาตั้งแต่ก่อนปี 2555 ผู้เขียนเห็นแบบนี้แล้วก็ยังตกใจเลยค่ะ นับว่าเป็นฟิคชิกาเทมารุ่นบุกเบิกเป็นเรื่องแรก ๆ ค่ะ ผู้เขียนแต่งฟิคนี้เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง เพราะสงสัยว่าช่องว่างที่ขาดหายไปในแต่ละช่วงของนารุโตะจะเป็นอย่างไร ฟิคเรื่องนี้จึงตั้งใจจะเล่าถึงช่องว่างระหว่างเวลาของชิกามารุและเทมาริที่คิชิโมโตะเซนเซไม่ได้เขียนค่ะ

              แม้ว่านี่จะเป็นแค่แฟนฟิคชั่น แต่ก็ตั้งใจให้มันดำเนินไปตามมังงะทุกกระเบียด แล้วเสริมเนื้อเรื่องในช่วงเวลาที่ขาดหายไปให้กลมกลืนไปกับมังงะหลัก ไม่ว่าจะเป็นช่วงหลังสอบจูนิน สามเดือนที่หายไปขณะเทมาริต้องอยู่โคโนะฮะหลังช่วยชิกามารุในภารกิจตามซาสึเกะ สามปีที่นารุโตะไปฝึกวิชา หลังจบสงครามนินจาไปจนถึงชิกาไดปรากฏตัวค่ะ

     



              ขอย้ำอีกครั้งว่าฟิคนี้ต้องการเติมเต็มช่องว่างของเหตุการณ์ระหว่างชิกามารุและเทมาริที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึง ดังนั้น ระยะแรกฟิคเรื่องนี้จึงเอื่อยเฉื่อยพอสมควรเพราะต้องการเขียน ตั้งแต่แรกเริ่มความสัมพันธ์ ค่อยเป็นค่อยไป แล้วความสัมพันธ์นั้นก็เริ่มพัฒนาไปกับแต่ละเหตุการณ์ เป็นฟิคอบอุ่น น่ารัก ไม่เร่งรีบและเน้นเก็บทุกความรู้สึกจริง ๆ ค่ะ

              ด้วยเหตุนี้ อาจอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ฟิคเรื่องนี้จะไม่เหมือนฟิคชิกาเทมาเรื่องอื่น คืออาจจะไม่สนุก ตื่นเต้นเหมือนฟิคที่ผูกเรื่องเอง แต่บอกได้เต็มปากเลยค่ะว่าฟิคเรื่องนี้เต็มอิ่มแน่นอนค่ะ ผู้เขียนดำเนินเรื่องโดยอิงมังงะ และใส่เหตุการณ์ส่วนที่หายไปไม่ให้สะดุด ซึ่งผู้เขียนก็หวังว่าตัวเองจะทำได้อย่างแนบเนียนพอ ขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ (˵•́ ᴗ •̀˵) ♡

     

     



              สำคัญ* แฟนฟิคเรื่องนี้ผู้เขียนตั้งใจและทุ่มเทอย่างมากในการที่จะถักทอร้อยเรียงออกมา การนำไปดัดแปลง ปรับปรุง ปรับเปลี่ยน หยิบยืมไอเดียบางจุดบางอันไปใช้ หรือลอกเลียนแก้ไขในบางส่วนแม้จะเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยคิดว่าไม่เป็นไร หรือมองว่าแค่คล้ายคลึงเท่านั้นเอง หรือการบอกว่าเป็นแรงบันดาลใจหรืออะไรก็ตามแต่ ถือว่าผู้เขียนขอนะคะ อย่าทำเลย

              ฟิคของผู้เขียนทุกเรื่องเป็นเหมือนลูกที่ปลุกปั้นมากลับมือ มีความทุ่มเท กลั่นกรอง ขบคิดออกมาอย่างยากลำบาก ถือเป็นการให้เกียรติกันในฐานะผู้เขียนและรังสรรค์ผลงานนะคะ ผู้เขียนกล่าวถึงเรื่องนี้ เนื่องจากฟิคเรื่องอื่น ๆ ในแฟนด้อมอื่นของผู้เขียนโดนบ่อย จึงอยากขอร้องไว้ ณ จุดนี้ค่ะ ให้อ้อนวอนก็ยอมค่ะ จ เจ็บมาเยอะค่ะ (┬┬﹏┬┬)

     



              สำคัญครั้งที่สอง* อ่านตอนไหนแล้ว ทิ้งคอมเม้นท์พูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาและกดกำลังใจไว้ได้ไหมคะ (T▽T) ♡ อยากให้คอมเม้นท์พูดคุยกันในแต่ละบทค่ะ ผู้เขียนขอร้องออดอ้อนนักอ่านทุกท่าน พูดคุยติชมกันได้นะคะ คอมเม้นท์พูดคุยกันได้ค่ะ อยากให้ทิ้งคอมเม้นท์กันไว้ ผู้เขียนอยากทราบฟีดแบ็กและผลตอบรับค่ะ นอกจากจะเป็นเรี่ยวแรงและกำลังให้ผู้เขียนเขียนต่อไปได้ ก็มีความหมายและมีค่ากับผู้เขียนมากจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านมากเลยนะคะ (┬┬﹏┬┬)

     



              ท่านใดสนใจพูดคุย ข่มขู่ ติดตามทวงฟิค กระตุ้นเตือนผู้เขียน เป็นเชื้อเพลิงจุดไฟในการเขียน หรืออื่น ๆ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม นอกจากทางแฮชแท็กของฟิคแล้ว สามารถติดต่อ ทักทายกันมาได้ผ่านทาง DM ของทวิตเตอร์ (คลิก) หรือเฟสบุ๊กแฟนเพจได้เสมอค่ะ

              แอคเค้าท์ทวิตเตอร์ของผู้เขียนคือ @ccarcharia บางทีก็ทวีตเกี่ยวกับงานเขียน ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดท ความคืบหน้า หรือดีเทลต่าง ๆ เกี่ยวกับฟิค รวมทั้งสปอยล์ที่อาจมีบ้าง หากสะดวก ก็สามารถติดตามได้ค่ะ แต่โดยส่วนมาก็บ่นขิงข่าไปตามเรื่องน่ะค่ะ

     



              แฮชแท็กของฟิคเรื่องนี้คือ: #ฟิคนี้มีเมฆมาก

              ทุกท่านสามารถพูดคุยและคอมเม้นท์ถึงแฟนฟิคเรื่องนี้ได้ผ่านทางเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์โดยการติดแฮชแท็ก #ฟิคนี้มีเมฆมาก ค่ะ แถมยังใช้ทวงฟิคก็ได้ ใช้ตามล่าตัวผู้เขียนมาอัพฟิคก็ได้ ใช้ถามคำถามหรือข้อสงสัยก็ได้ อย่าลืมมาเล่นแฮชแท็กนี้กันนะคะ :)

              นอกจากนี้ ยังมีแฮชแท็ก #ccarcharia ซึ่งใช้กับฟิคของผู้เขียนทุกเรื่อง สามารถแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชมเพื่อหารายการฟิคที่ถูกใจได้ค่ะ

     



    Please comment.

    คอมเม้นท์พูดคุยกันนะคะ xx

     


    ...

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "ด้วยรักและหลงใหล ♥"

    (แจ้งลบ)

    นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอแฟนฟิคที่ถูกใจถึงขนาดนี้...ผู้เขียนมีความตั้งใจอย่างมากที่ถ่ายถอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาจากนวนิยาย ทำให้คนอ่านอย่างเราๆ เข้าใจได้อย่างลึกซึ้งถึงความผูกพันของตัวละคร ทั้งการบรรยายที่สละสลวย เอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวละครที่ไม่บิดเบือนไปจากมังงะ ถือว่าผู้เขียนทำได้ดีมากในส่วนนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้อ่านมักเจอแต่นวนิยายที่หลุดคาแร็คเตอร ... อ่านเพิ่มเติม

    นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอแฟนฟิคที่ถูกใจถึงขนาดนี้...ผู้เขียนมีความตั้งใจอย่างมากที่ถ่ายถอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาจากนวนิยาย ทำให้คนอ่านอย่างเราๆ เข้าใจได้อย่างลึกซึ้งถึงความผูกพันของตัวละคร ทั้งการบรรยายที่สละสลวย เอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวละครที่ไม่บิดเบือนไปจากมังงะ ถือว่าผู้เขียนทำได้ดีมากในส่วนนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้อ่านมักเจอแต่นวนิยายที่หลุดคาแร็คเตอร์บ้างล่ะ มั่วนิ่มเรื่องตัวละครบ้างล่ะ ทำให้รู้สึกว่ามันไม่ค่อยพอใจเมื่อไห้อ่าน ครั้งแรกก็ลังเลว่าจะอ่านดีมั้ยหลังจากเปิดคลังนิยายที่บันทึก Fav. ไว้ แต่พอเข้ามาส่องๆ ดูลาดเลา มันกลับกัน แฟนฟิคเรื่อง 'Beyond the Horizon' นั้นให้ความรู้สึกแตกต่างจากแฟนฟิคเรื่องอื่นของนักเขียนคนอื่นๆ จริงๆ เหมือนกับว่า อ.มาซาชิ มาเขียนเองเลย ไม่ได้ยอนะ แต่แบบว่าชอบจริงๆ ต้องขอบคุณความเครียดก่อนสอบที่ทำให้เปิดนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาอ่านเพื่อจรรโลงใจก่อนจะเครียดตายในห้องสอบ 55555+ ครอบครัวนี้น่ารักจริงๆ เลย ♥   อ่านน้อยลง

    ♞ Kacarron | 15 ก.ย. 57

    • 10

    • 0

    "ขอบคุณจริงๆค่ะ"

    (แจ้งลบ)

    ต้องบอกว่า ขอบคุณจริงๆค่ะที่ยังมีคนหลงใหลและมองเห็นความรักของสองคนนี้อยู่ ไรท์เตอร์ใช้ภาษาสวยมาก เหมือนเรากำลังอ่านนวนิยายดีๆเรื่องหนึ่ง รู้สึกถึงความลึกซึ้งระหว่างความสัมพันธ์ของสองคนนี้จริงๆค่ะ และก็ดีใจมากจนคิดว่าฝันที่อ.มาซาชิเขียนตอนจบให้สองคนนี้มีพยานความรักประจักษ์สายตาแฟนๆอย่างเรา จนต้องกลับมาหาฟิคสองคนนี้อ่าน แล้วก็เจอฟิคเรื่องนี้แหละค่ะ ... อ่านเพิ่มเติม

    ต้องบอกว่า ขอบคุณจริงๆค่ะที่ยังมีคนหลงใหลและมองเห็นความรักของสองคนนี้อยู่ ไรท์เตอร์ใช้ภาษาสวยมาก เหมือนเรากำลังอ่านนวนิยายดีๆเรื่องหนึ่ง รู้สึกถึงความลึกซึ้งระหว่างความสัมพันธ์ของสองคนนี้จริงๆค่ะ และก็ดีใจมากจนคิดว่าฝันที่อ.มาซาชิเขียนตอนจบให้สองคนนี้มีพยานความรักประจักษ์สายตาแฟนๆอย่างเรา จนต้องกลับมาหาฟิคสองคนนี้อ่าน แล้วก็เจอฟิคเรื่องนี้แหละค่ะ โมเม้นของสองคนนี้มีให้เห็นมากกว่าคู่อื่นมาก ทำให้อยากรู้ว่าฉากที่อ.มาซาชิไม่ได้เขียนออกมา สองคนนี้เค้าพัฒนาความสัมพันธ์กันไปถึงไหน ฟิคเรื่องนี้คงถ่ายทอดได้ดีที่สุดแล้วค่ะ อาจเป็นเพราะนารุโตะไม่ใช่การ์ตูนสายโรแมนซ์ เพราะบู๊กันมาตลอด และตอนจบลงเอยแบบนี้ มันทำให้ยิ่งรู้สึกถึงความโรแมนติกของตัวละครจนอยากให้อ.มาซาชิเขียน side story ความรักแต่ละคู่ออกมา แต่คงเป็นไปได้ยาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร เพราะมีฟิคเรื่องนี้บอกเล่าให้เรารับรู้แล้ว :)   อ่านน้อยลง

    小Toey | 13 พ.ย. 57

    • 3

    • 0

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    "อัดแน่นด้วยเนื้อหาและอรรถรส"

    (แจ้งลบ)

    แฟนคู่ชิกาเทมาไม่ควรพลาดผลงานชิ้นนี้ ไรท์เตอร์ใช้ภาษาสวย และบรรยายได้เต็มอิ่ม แม้ว่าบางจุดอาจจะยังมีการสลับคำแะพิมพ์ผิดไปบ้าง (ซึ่งอันนี้ก็เกิดขึ้นกับทุกๆเรื่อง ฮ่าๆๆๆ) และยังเป็นการเขียนนิยายอิงมังงะจริงๆ และเขียนแบบมีเหตุมีผล ไม่แปลกใจเลยที่จะมีนักอ่านมาคอยตามอ่านอยู่เสมอ ขอบคุณไรท์เตอร์ที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้ให้เราได้อ่านค่ะ ขอยคุณนะคะ ต ... อ่านเพิ่มเติม

    แฟนคู่ชิกาเทมาไม่ควรพลาดผลงานชิ้นนี้ ไรท์เตอร์ใช้ภาษาสวย และบรรยายได้เต็มอิ่ม แม้ว่าบางจุดอาจจะยังมีการสลับคำแะพิมพ์ผิดไปบ้าง (ซึ่งอันนี้ก็เกิดขึ้นกับทุกๆเรื่อง ฮ่าๆๆๆ) และยังเป็นการเขียนนิยายอิงมังงะจริงๆ และเขียนแบบมีเหตุมีผล ไม่แปลกใจเลยที่จะมีนักอ่านมาคอยตามอ่านอยู่เสมอ ขอบคุณไรท์เตอร์ที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้ให้เราได้อ่านค่ะ ขอยคุณนะคะ ติดตามและเป็นกำลังใจให้ค่ะ :)   อ่านน้อยลง

    W.Albatross | 14 ก.ค. 58

    • 1

    • 1

    "ขอบคุณจริงๆค่ะ"

    (แจ้งลบ)

    ต้องบอกว่า ขอบคุณจริงๆค่ะที่ยังมีคนหลงใหลและมองเห็นความรักของสองคนนี้อยู่ ไรท์เตอร์ใช้ภาษาสวยมาก เหมือนเรากำลังอ่านนวนิยายดีๆเรื่องหนึ่ง รู้สึกถึงความลึกซึ้งระหว่างความสัมพันธ์ของสองคนนี้จริงๆค่ะ และก็ดีใจมากจนคิดว่าฝันที่อ.มาซาชิเขียนตอนจบให้สองคนนี้มีพยานความรักประจักษ์สายตาแฟนๆอย่างเรา จนต้องกลับมาหาฟิคสองคนนี้อ่าน แล้วก็เจอฟิคเรื่องนี้แหละค่ะ ... อ่านเพิ่มเติม

    ต้องบอกว่า ขอบคุณจริงๆค่ะที่ยังมีคนหลงใหลและมองเห็นความรักของสองคนนี้อยู่ ไรท์เตอร์ใช้ภาษาสวยมาก เหมือนเรากำลังอ่านนวนิยายดีๆเรื่องหนึ่ง รู้สึกถึงความลึกซึ้งระหว่างความสัมพันธ์ของสองคนนี้จริงๆค่ะ และก็ดีใจมากจนคิดว่าฝันที่อ.มาซาชิเขียนตอนจบให้สองคนนี้มีพยานความรักประจักษ์สายตาแฟนๆอย่างเรา จนต้องกลับมาหาฟิคสองคนนี้อ่าน แล้วก็เจอฟิคเรื่องนี้แหละค่ะ โมเม้นของสองคนนี้มีให้เห็นมากกว่าคู่อื่นมาก ทำให้อยากรู้ว่าฉากที่อ.มาซาชิไม่ได้เขียนออกมา สองคนนี้เค้าพัฒนาความสัมพันธ์กันไปถึงไหน ฟิคเรื่องนี้คงถ่ายทอดได้ดีที่สุดแล้วค่ะ อาจเป็นเพราะนารุโตะไม่ใช่การ์ตูนสายโรแมนซ์ เพราะบู๊กันมาตลอด และตอนจบลงเอยแบบนี้ มันทำให้ยิ่งรู้สึกถึงความโรแมนติกของตัวละครจนอยากให้อ.มาซาชิเขียน side story ความรักแต่ละคู่ออกมา แต่คงเป็นไปได้ยาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร เพราะมีฟิคเรื่องนี้บอกเล่าให้เรารับรู้แล้ว :)   อ่านน้อยลง

    小Toey | 13 พ.ย. 57

    • 3

    • 0

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น